บทความ

รูปปก บทความ โรคไข้เลือดออก

ไข้เลือดออก โรคร้ายฤดูฝนที่มาพร้อมกับยุงลาย ป้องกันได้

“ไข้เลือดออก” เป็นโรคคุ้นหูที่มียุงลายเป็นพาหะ มักจะระบาดทุกช่วงฤดูฝนของทุกปีในประเทศเขตร้อน รวมถึงประเทศไทยด้วย เนื่องจากที่ไข้เลือดออกเป็นโรคที่ระบาดเป็นประจำทุกปี จึงฟังดูเป็นเรื่องปกติ เป็นเหตุให้หลายคนมองข้ามความอันตรายของโรคนี้ไป อาการของโรคไข้เลือดออกจะแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคุล โดยอาจมีอาการผิดปกติแสดงเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที วันนี้ ทางคลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ จึงอยากจะมาแบ่งปันความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออกว่าเกิดจากอะไร มีอาการที่สังเกตเห็นได้อย่างไร ขั้นตอนการรักษา และวิธีการป้องกันทำได้อย่างไร มาดูกันเลย! ไข้เลือดออก เกิดจากอะไร? โดยทั่วไป เราจะเข้าใจกันว่าโรคไข้เลือดออกเกิดจากการถูกยุงกัด ซึ่งก็ถูกต้องแต่ยังไม่ถูกต้อง 100% เนื่องจากยุงที่กัดผู้ป่วยนั้น ไม่ใช่ยุงทุกตัว แต่ต้องเป็นยุงที่มีเชื้อไวรัส “เดงกี” อีกด้วย โดยเชื้อไวรัสตัวนี้จะเข้าไปฝังในกระเพาะและต่อมน้ำลายของยุง และเมื่อผ่านเวลาฟักตัวประมาณ 8 – 12 วัน ไวรัสตัวนี้ก็สามารถแพร่เข้าสู่กระแสเลือดของผู้ที่ถูกยุงกัด แล้วทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกได้ โรคไข้เลือดออกมีอาการอย่างไร? ไข้เลือดออกสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย ขึ้นอยู่กับโอกาสที่บุคคลจะได้รับเชื้อจากการโดนยุงกัด โดยทั่วไปผู้ป่วยอาจมีอาการดังนี้: ไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 – 7 วัน มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร มีจ้ำเลือดหรือจุดเลือดตามผิวหนัง หน้าแดง มีอาการเลือดออกบริเวณอื่น เช่น …

ไข้เลือดออก โรคร้ายฤดูฝนที่มาพร้อมกับยุงลาย ป้องกันได้ Read More »

รู้ไว้ใช่ว่า วัคซีนคืออะไร และช่วยปกป้องร่างกายของเราอย่างไร?

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ทำให้ “วัคซีน” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น้อยคนนักจะไม่รู้จัก แต่อย่างไรก็ตาม เราอาจมีความเข้าใจต่อวัคซีนที่แตกต่างกันออกไป โดยความเข้าใจเหล่านั้นบางครั้งก็อาจจะถูกต้องและบางครั้งอาจก็อาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง ดังนั้น คลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ จึงอยากจะมาร่วมแบ่งปันความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ว่าจริง ๆ แล้ว วัคซีนคืออะไร เรารับวัคซีนกันไปทำไม และมันช่วยปกป้องร่างกายของเราได้อย่างไร? วัคซีนคืออะไร? วัคซีนคือชีววัตถุ (แอนติเจน) ที่ผลิตมาจากเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรคที่ผ่านกระบวนการให้ไม่สามารถก่อโรคได้แต่ยังคงกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน (แอนติบอดี้) ได้ ดังนั้น การที่หลายคนเข้าใจกันไปว่าวัคซีนเป็นเหมือนยาที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคนั้น จึงเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องไปเสียทีเดียว และอีกหนึ่งเรื่องน่ารู้ก็คือ วัคซีนสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทตามการผลิต ได้แก่: 1. วัคซีนเชื้อตาย (killed vaccine)  เป็นวัคซีนที่ผลิตโดยใช้เชื้อโรคทั้งตัวที่ตายแล้ว ได้แก่ วัคซีนตับอักเสบเอ วัคซีนอหิวาตกโรค วัคซีนพิษสุนัขบ้า หรือผลิตจากส่วนประกอบบางส่วนของเชื้อโรค ได้แก่ วัคซีนตับอักเสบบี วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2. วัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (live attenuated vaccine)  เป็นวัคซีนที่ผลิตโดยใช้เชื้อโรคมาผ่านกระบวนการทำให้อ่อนฤทธิ์ลงจนไม่สามารถทำให้เกิดโรค แต่ก็เพียงพอที่จะสามารถทำให้เกิดการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ ได้แก่ วัคซีนโปลิโอชนิดกิน วัคซีนอีสุกอีใส วัคซีนวัณโรค …

รู้ไว้ใช่ว่า วัคซีนคืออะไร และช่วยปกป้องร่างกายของเราอย่างไร? Read More »

รูปปก บทความ ความแตกต่างของ โควิด และ ไข้หวัดใหญ่

โควิด-19 VS ไข้หวัดใหญ่ อาการเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินทางจากฤดูร้อนเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ช่วงเวลาทองของทุกปีที่โรค “ไข้หวัดใหญ่” จะกลับมาระบาด ซึ่งในขณะเดียวกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ยังมีแนวโน้มว่าจะอยู่กับเราไปอีกยาว ๆ จึงเรียกได้ว่า เรากำลังเผชิญกับสองโรคร้ายที่มีอาการค่อนข้าง “คล้ายกัน” ในเวลาเดียวกัน แต่หลายๆ คนก็คงจะสงสัยว่า ไข้หวัดใหญ่ โควิด อาการต่างกันอย่างไร ดังนั้น วันนี้ ทางคลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ จึงอยากจะมาแบ่งปันความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ กับคนในชุมชน เกี่ยวกับความเหมือนและความแตกต่างอย่างคร่าว ๆ ระหว่าง “โรคไข้หวัดใหญ่” และ “การติดเชื้อไวรัสโควิด-19” เพื่อที่ทุกคนจะได้สามารถแยกอาการของโรค และรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาหรือรับวัคซีนให้ตรงจุดอย่างทันท่วงที โดยความเหมือนหรือแตกต่างกันเหล่านั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย! เปรียบเทียบความแตกต่างของ ไข้หวัดใหญ่ และ โควิด อาการหลักของโรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดใหญ่อาจมีอาการคล้ายโรคไข้หวัดธรรมดา แต่มักมีอาการที่เด่นชัดและรุนแรงกว่า ได้แก่ มีไข้สูงแบบทันทีทันใด (37.8-39 องศาเซลเซียส) มีอาการปวดหัวหนัก มีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว และอ่อนเพลีย อาจมีอาการไอรุนแรง ร่วมกับอาการเจ็บหน้าอก อาการหลักของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีอาการเช่นเดียวกับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยอาการโดยทั่วไปที่พบได้ …

โควิด-19 VS ไข้หวัดใหญ่ อาการเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร Read More »

สปสช. แนะ “7 กลุ่มเสี่ยง” รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ระหว่างรอวัคซีนโควิด-19 ลดอัตราเสียชีวิต

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง* เข้ารับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ ในระหว่างรอรับสิทธิฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 เนื่องจากสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ รวมถึงลดระยะเวลาการรักษาตัวในโรงพยาบาล หากได้รับเชื้อโควิด-19 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประสานกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข เปิดให้ประชาชนที่ถูกจัดอยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยง* จองสิทธิรับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลจำนวน 6.4 ล้านโดส ภายใต้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 และได้เปิดให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนที่หน่วยบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด ทำไมเราถึงควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่? เนื่องด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน ซึ่งอัตราการเสียชีวิตจากอาการนี้ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังนั้นค่อนข้างสูง จึงเป็นสาเหตุให้การรับวัคซีนป้องกันเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดความเสี่ยงดังกล่าว การรับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ยังช่วยลดความสับสนในการตรวจวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่กับโรคโควิด-19 แถมยังช่วยลดความรุนแรงของอาการเจ็บป่วยหากได้รับเชื้อโควิด-19 อีกด้วย ควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีนโควิด-19 ก่อน? ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก่อน …

สปสช. แนะ “7 กลุ่มเสี่ยง” รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ระหว่างรอวัคซีนโควิด-19 ลดอัตราเสียชีวิต Read More »

ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร? พร้อมเช็คลิสต์ประเมินความเสี่ยง รู้ทัน ป้องกันได้

แน่นอนว่า หลายคนต้องเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ทำงานหน้าคอมนาน ๆ แบบนี้ เดี๋ยวก็เป็นออฟฟิศซินโดรมหรอก” ซึ่งแม้ว่าชื่อโรคนี้อาจจะฟังดูหุ้นหูเสียเหลือเกิน ทว่า หลายคนอาจยังคงไม่แน่ใจว่า โรคออฟฟิศซินโดรมที่เขาพูดถึงนั้น แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่ เพื่อไขปัญหาคาใจดังกล่าว ทางคลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ ขออาสามาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ ว่ามันเกิดจากอะไร มีอาการอย่างไร และเราจะสามารถรับมือกับมันได้อย่างไร ออฟฟิศซินโดรมมีสาเหตุมาจากอะไร? ออฟฟิศซินโดรม เป็นชื่ออาการโดยรวมที่มักเกิดขึ้นกับพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ  และไม่ได้ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย โดยอาการอาจแตกต่างกันไปตามบุคคล อย่างเช่น อาการปวดชนิดต่าง ๆ ทั้งจากกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด การอักเสบของเนื้อเยื่อและเอ็น จากปลายประสาทถูกกดทับ หรืออาการอื่น ๆ ที่เกิดจากการทำงาน โดยอาการดังกล่าวอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น: ท่านั่งทำงาน เช่น การวางศอก หรือการวางมือบนโต๊ะทำงานที่ไม่ถูกต้อง การบาดเจ็บจากอาการเดิมซ้ำ ๆ เช่นการคลิกเมาส์ทั้งวัน อาจก่อให้เกิดการอักเสบที่เอ็นข้อมือ สภาพแวดล้อมในห้องไม่เหมาะสม เช่น ลักษณะโต๊ะทำงานที่ไม่เหมาะสม หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ตั้งไม่ตรงกับระดับสายตา หรือแสงสว่างภายในห้องไม่เพียงพอ ออฟฟิศซินโดรมมีอาการอย่างไร? เนื่องด้วยการที่ออฟฟิศซินโดรมเป็น “อาการโดยทั่วไป” ที่พนักงานออฟฟิศมักเผชิญ แม้ว่าอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่ในบางครั้ง …

ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร? พร้อมเช็คลิสต์ประเมินความเสี่ยง รู้ทัน ป้องกันได้ Read More »

ข้อปฏิบัติเบื้องต้น ก่อนตรวจสุขภาพประจำปี ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

เป็นที่รู้กันว่า การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งที่พึงประทำ เนื่องจากผลการตรวจจะสามารถบอกให้เรารู้ได้ว่าเราควรดูแลรักษาสุขภาพส่วนไหนเป็นพิเศษหรือไม่ แถมยังช่วยให้เราสามารถป้องกันและรับมือกับโรคต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและทันท่วงทีอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว เริ่มอยากตรวจสุขภาพประจำปีกันแล้วใช่ไหมล่ะ? แต่ช้าก่อน! เพื่อที่จะให้ผลของการตรวจสุขภาพออกมาตรงที่สุด ผู้เข้ารับการตรวจอาจต้องเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายบางประการด้วยนะ โดยวันนี้ ทางคลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจจะมาแบ่งปันความรู้เบื้องต้นและข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย! ข้อควรปฏิบัติก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ ในการเข้ารับการตรวจสุขภาพแต่ละครั้ง เราต้องทำการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายกันสักนิดหนึ่ง โดยสามารถทำตามข้อปฏิบัติง่าย ๆ ดังนี้: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพ เนื่องจากการอดนอนอาจส่งผลให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะความดันโลหิต หรือ อัตราการเต้นของหัวใจ งดอาหารและน้ำ อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนตรวจ (จิบน้ำเปล่าได้เล็กน้อย) งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจ เนื่องจากแอลกอฮอล์ อาจมีผลต่อการตรวจวินิจฉัยอาการบางอย่าง สวมเสื้อแขนสั้น หรือเสื้อที่สะดวกต่อการพับแขน เนื่องจากอาจมีการเจาะเลือดที่ข้อพับแขน แจ้งแพทย์ หากมีโรคประจำตัวที่ทราบอยู่แล้วพร้อมนำผลตรวจมาแสดงด้วย สุภาพสตรี ไม่ควรตรวจสุขภาพช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือน 7 วัน และขณะมีประจำเดือน ควรงดตรวจปัสสาวะเนื่องจากอาจมีเลือดปนเปื้อน หากสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่องดตรวจด้วยการเอกซเรย์ ทั้งนี้ …

ข้อปฏิบัติเบื้องต้น ก่อนตรวจสุขภาพประจำปี ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? Read More »

ไข้หวัดใหญ่คืออะไร ทำไมเราต้องฉีดวัคซีนป้องกัน?

ขึ้นชื่อว่าเป็น “ไข้หวัดใหญ่” ก็แน่นอนว่าย่อมมีอาการที่รุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา หลายคนอาจรู้ว่า ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดต่อผ่านทางระบบทางเดินหายใจที่ระบาดทุกปีในช่วงฤดูฝน ทำให้มองว่าไข้หวัดใหญ่เป็นเพียงโรค ๆ หนึ่ง ที่ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากไข้หวัดธรรมดา แต่แค่แวะเวียนมาในช่วงหนึ่งของทุกปีและมีอาการหนักกว่าเท่านั้นเอง ทว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่แอบซ่อนความอันตรายไว้ และเราก็เห็นรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเป็นประจำทุกปี ดังนั้น การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จึงเป็นอีกหนึ่งวัคซีนป้องกันโรคที่ควรฉีดเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบุคคลซึ่งอยู่ใน “กลุ่มเสี่ยง”   ไข้หวัดใหญ่คืออะไร เกิดจากอะไร และอาการอย่างไร? ไข้หวัดใหญ่ (Influenza หรือ Flu) เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยมากสามารถติดต่อจากคนสู่คนผ่านการไอ จาม หรือการมีสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัส โดยอาการโดยทั่วไปอาจคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป แต่อาการเด่น ๆ ที่เราสามารถสังเกตได้ของโรคไข้หวัดใหญ่ก็คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย หนาวสั่น รวมถึงอาจมีอาการท้องเสียร่วม โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลันทันที ซึ่งหากมีอาการควรเข้าพบแพทย์และรับการรักษาที่ต้นเหตุอย่างถูกต้อง  โรคไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันได้อย่างไร? วิธีการดูแลตัวเองที่ง่ายที่สุดก็คือการเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้ เราไม่สามารถทราบได้ว่า ผู้ป่วยหรือคนรู้จักที่เราใช้ชีวิตร่วมด้วยมีการป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่ ดังนั้น วิธีการป้องกันตัวเองที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดโอกาสเสี่ยงของการติดเชื้อนั่นเอง  ทำไมเราถึงต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี? หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้ารับวัคซีนแล้ว จะสามารถติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้หรือไม่ คำตอบก็คือถึงแม้ว่ารับวัคซีนแล้ว ก็ยังสามารถที่จะติดเชื้อได้ แต่อาจจะมีความรุนแรงลดลง …

ไข้หวัดใหญ่คืออะไร ทำไมเราต้องฉีดวัคซีนป้องกัน? Read More »

ทำความรู้จักโรค “เบาหวาน” ซึ่งไม่หวานแถมถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมได้

หลายต่อหลายครั้ง เราอาจจะได้ยินคนพูดว่า “กินหวานขนาดนี้ เดี๋ยวก็เป็นเบาหวานหรอก” ซึ่งถ้าจะพูดว่า โรคเบาหวาน (Diabetes) เป็นโรคที่เกิดจากการทานหวาน ก็อาจจะไม่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด เพราะว่าแค่การทานหวานเพียงอย่างเดียว ไม่อาจส่งผลให้เกิดโรคเบาหวานได้ อีกทั้งการเป็นโรคเบาหวาน อาจจะไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว เพราะโรคนี้สามารถถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมได้ด้วย หลายคนอาจกำลังคิดว่า ฉันไม่ชอบทานอาหารหวาน โรคเบาหวานนี่ฟังดูอย่างไรก็ไกลตัว แต่ความจริงแล้ว จากสถิติพบว่า ในปี 2562 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคเบาหวานมากถึง 4.8 ล้านคน เลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นจำนวนผู้ป่วยที่ค่อนข้างสูงมาก พอเห็นจำนวนผู้ป่วยมากขนาดนี้ โรคนี้จึงเริ่มฟังดูใกล้ตัวเรามากขึ้นขึ้นมาทันที เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว วันนี้ ทางคลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ อยากจะมาแบ่งปันความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับโรคเบาหวาน เพื่อให้คนในชุมชน ได้รู้จักตัวโรค วิธีป้องกัน ตลอดจนวิธีรับมือกับเจ้าโรคนี้ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และทันท่วงที โรคเบาหวานคืออะไร? โรคเบาหวาน เป็นโรคที่เกิดจากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดปกติของร่างกายต่อฮอร์โมนที่ชื่อว่า “อินซูลิน” แบ่งออกได้เป็น 2 กรณี ได้แก่ การหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนลดลง ภาวะดื้อต่ออินซูลิน โดยความบกพร่องดังกล่าวนี้ มีผลให้การดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานของเซลล์ร่างกายลดลง จนมีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสะสมเป็นปริมาณมาก และเป็นผลให้อวัยวะต่าง ๆ …

ทำความรู้จักโรค “เบาหวาน” ซึ่งไม่หวานแถมถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมได้ Read More »

หลงลืมตามวัยหรืออาจเข้าข่ายภาวะสมองเสื่อม ?

เรามักเชื่อกันว่าอาการหลงลืมของผู้สูงอายุนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ แล้ว ความเชื่อดังกล่าวไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะบางทีอาการเหล่านี้อาจซ่อนความอันตรายของ “ภาวะสมองเสื่อม” เอาไว้ ซึ่งนอกจากจะขี้หลงขี้ลืมแล้ว ยังมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน พฤติกรรม บุคลิกภาพและอารมณ์อีกด้วย ทางคลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ เราห่วงใยคนในชุมชน จึงมีบริการประเมินภาวะสมองเสื่อมให้กับคุณและคนใกล้ตัวที่กำลังไม่แน่ใจว่าอาการขี้หลงขี้ลืมของตนเองนั้น มันเกิดจากภาวะสมองเสื่อมหรือเปล่า แต่ก่อนจะเข้ามาคลินิกเพื่อประเมิน เรามาทำความรู้จักกับภาวะสมองเสื่อมให้มากขึ้น และสำรวจตัวเองกันคร่าว ๆ กันก่อนดีกว่า ภาวะสมองเสื่อมคืออะไร? ภาวะสมองเสื่อมคือภาวะที่การทำงานของสมองในด้านความจำ ความคิด การใช้เหตุผล การใช้ภาษา และการรับรู้สิ่งแวดล้อมผิดปกติไป ทำให้เกิดปัญหาทางด้านความคิด การตัดสินใจ รวมถึงมีพฤติกรรมต่าง ๆ และอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และสามารถพัฒนาความรุนแรง จนในที่สุดผู้ป่วยจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และต้องคอยมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ซึ่งภาวะนี้ยิ่งอายุมากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง โดยประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบก้าวกระโดด สิ่งที่ตามมาคือตัวเลขผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมที่มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจากสถิติพบว่าทุก ๆ 8 คนในผู้สูงอายุ 100 คน จะป่วยด้วยภาวะสมองเสื่อม และตัวเลขโดยรวมนั้นพุ่งสูงถึง 800,000 คนเลยทีเดียว ภาวะสมองเสื่อมมีสาเหตุมาจากอะไร? ภาวะสมองเสื่อมไม่ใช่เพียงอาการขี้หลงขี้ลืมเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ หลายภาวะ …

หลงลืมตามวัยหรืออาจเข้าข่ายภาวะสมองเสื่อม ? Read More »

ข้อปฏิบัติหากมีคนในบ้านได้รับเชื้อหรือเดินทางมาจากบริเวณพื้นที่เสี่ยงโควิด-19

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยกำลังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อและป้องกันการแพร่เชื่อให้กับคนใกล้ตัว ทางคลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ มีแนวทางการปฏิบัติตัวขั้นพื้นฐานเพื่อดูแลตัวเองและสังคมได้ ดังนี้ ผู้ที่เดินทางไปในบริเวณพื้นที่เสี่ยงต่อการติดโรค ควรกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน และไม่ควรออกจากบ้านหากไม่จำเป็น ผู้มีโอกาสรับเชื้อสามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวได้ตามปกติ แต่ควรใส่หน้ากาก และเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร ผู้มีโอกาสรับเชื้อควรแยกห้องนอนกับคนในครอบครัวเป็นเวลา 14 วัน นับจากวันที่มีโอกาสรับเชื้อ เมื่อผู้มีโอกาสรับเชื้อมีอาการไอ หรือจาม ควรปิดปากด้วยกระดาษทิชชู่และทิ้งลงในถังขยะทันที เพื่อเลี่ยงการแพร่เชื้อให้คนในครอบครัว  ผู้มีโอกาสรับเชื้อควรแยกรับประทานอาหารกับคนในครอบครัว รวมถึงไม่ใช้ จาน ชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำ ร่วมกับผู้อื่น หากมีไข้สูงเกิน 37.5 องศาและมีอาการอื่นร่วม เช่น มีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลโดยทันที ข้อปฏิบัติดังกล่าวถือเป็นรายการคำแนะนำที่ควรปฏิบัติตาม เพื่อช่วยลดโอกาสการรับและกระจายตัวของเชื้อโควิด-19 หากใครจำเป็นต้องไปเรียน ไปทำงาน หรือไปทำธุระนอกบ้าน แล้วจำเป็นต้องใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ อย่าลืม ใส่หน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และหากเป็นไปได้ ในช่วงนี้ ควรเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ปิดและแออัดไปด้วยผู้คนจำนวนมาก จะปลอดภัยกว่านะ …

ข้อปฏิบัติหากมีคนในบ้านได้รับเชื้อหรือเดินทางมาจากบริเวณพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 Read More »