สถิติการเกิดโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ มีแนวโน้มที่จะมากขึ้นทุกปี เนื่องจากสภาพแวดล้อมภูมิสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป จากข้อมูลโดยกรมสุขภาพจิต พบว่า มีผู้สูงอายุฆ่าตัวตายสูง เป็นอันดับ 2 ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทว่า หนึ่งในนั้นก็คือการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ฉะนั้น พี่น้องในชุมชนที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ ควรดูแลเอาใจใส่และหมั่นสังเกตอาการของผู้สูงอายุอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะซึมเศร้า
สาเหตุของ โรคซึมเศร้า ในผู้สูงอายุ
โรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ มีสาเหตุมาจาก พันธุกรรม ลักษณะนิสัย รวมไปถึงสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิต ซึ่งผู้ดูแลหรือคนที่ใกล้ชิดผู้สูงอายุ ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก หากรู้สึกว่าผู้สูงอายุในบ้าน กำลังเข้าสู่ภาวะของโรคซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาแนวทางการรักษาโรคซึมเศร้าอย่างเหมาะสม โดยสาเหตุหลักของการเกิดโรคซึมเศร้า สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่:
- ด้านร่างกาย: เกิดจากสารสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติ ทำให้อารมณ์เสียสมดุล ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าหรือการเจ็บป่วยทางร่างกายต่าง ๆ ได้ง่าย ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสมองโดยตรง แต่ก็ทำให้รู้สึกเจ็บปวด เครียด หรือเป็นกังวลได้ เช่น โรคอัลไซเมอร์ เบาหวาน โรคมะเร็ง หรือแม้กระทั่งผู้พิการ บุคคลทุพพลภาพ
- ด้านจิตใจ: เมื่อผู้สูงอายุอยู่บ้านคนเดียว อาจทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ หรือแม้กระทั่งการที่ต้องสูญเสียคนใกล้ชิด หรือบุคคลอันเป็นที่รักไป โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ผู้สูงอายุจึงทำใจไม่ได้ เกิดความรู้สึกไม่อยากจะทำอะไร หรือพบเจอใคร ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายของการเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า และสำหรับผู้สูงอายุบางคน ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นลบ คนในครอบครัวไม่สนใจ ไม่มีสังคม ไม่มีเพื่อนคุย ก็อาจส่งผลให้ผู้สูงอายุ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน
อาการของ โรคซึมเศร้า ในผู้สูงอายุ
- กินอาหารได้น้อยลง หรือกินมากเกินไป
- นอนไม่ค่อยหลับ หรือนอนเยอะผิดปกติ
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีเรี่ยวแรง
- ความสนใจในเรื่องต่าง ๆ ลดลง เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร
- สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า และมักจะโทษตัวเองอยู่บ่อยครั้ง
- มองโลกให้แง่ร้าย ไม่เป็นมิตรกับใคร ขาดการเข้าสังคม
- มีพฤติกรรมรุนแรง ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย
- มีอารมณ์เศร้า หดหู่ ไปจนถึงการไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
การดูแลผู้สูงอายุหากป่วยเป็น โรคซึมเศร้า
- อาการเบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อย: เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหาร ผู้ดูแลอาจให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารอ่อน ๆ หรืออาหารที่ย่อยง่าย เน้นอาหารในกลุ่มแป้ง และน้ำตาลเพื่อเพิ่มพลังงาน ในปริมาณที่เหมาะสม โดยอาจกระตุ้นให้ผู้สูงอายุทานอาหารมากขึ้น โดยการป้อนทีละคำช้า ๆ และป้อนให้บ่อยขึ้น
- อาการเบื่อหน่าย: ผู้ดูแลควรหากิจกรรมทำร่วมกับผู้สูงอายุ กระตุ้นให้ผู้สูงอายุมีการตอบสนอง เพราะการพูดคุยกับผู้ใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว และการทำกิจกรรมร่วมกัน สามารถช่วยลดความเบื่อหน่ายให้กับผู้สูงอายุได้
- อาการนอนไม่หลับตอนกลางคืน: ผู้ดูแลอาจใช้วิธีการเปิดเพลง ที่มีจังหวะช้า ๆ นุ่มนวล เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้สูงอายุ หรือที่เรียกว่าการใช้ดนตรีบำบัด หรือแม้แต่การเลือกเตียงนอนผู้สูงอายุก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
- อาการหงุดหงิด ฉุนเฉียว: ผู้ดูแลต้องเข้าใจผู้สูงอายุให้มาก พูดคุยถึงปัญหาที่ผู้สูงอายุกำลังเผชิญอยู่ คอยรับฟัง ให้กำลังใจ และแบ่งปันเรื่องราว ปัญหาต่าง ๆ กับผู้สูงอายุ ทำให้ผู้สูงอายุรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดทั้งตัวผู้สูงอายุ
- อาการไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ: ผู้ดูแลต้องอาศัยการรักษาทางการแพทย์เข้าช่วย เพราะถือว่าเป็นจุดวิกฤต แต่สิ่งที่คนในครอบครัวจะสามารถทำได้ คือ การให้ความรักความเข้าใจคอยอยู่ข้าง ๆ และดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่คนเดียว เพราะอาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุทำร้ายตัวเองได้
การรักษา โรคซึมเศร้า ในผู้สูงอายุ
- การรักษาทางจิตใจ: การรักษาด้วยวิธีนี้ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้สูงอายุ โดยการให้ผู้ป่วยเข้าพบจิตแพทย์เพื่อพูดคุยให้คำปรึกษา ทำจิตบำบัด ปรับวิธีการคิด และปรับทัศนคติในทางลบให้ดีขึ้น ซึ่งวิธีจะช่วยให้ผู้สูงอายุ เปลี่ยนมุมมอง และเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาได้ดีมากยิ่งขึ้น
- การรักษาโดยการใช้ยา: การรักษาด้วยวิธีนี้ จะทำให้ผู้สูงอายุอาการดีขึ้นเร็ว แต่ก็อาจจะส่งผลข้างเคียงด้านอื่น ๆ ซึ่งยารักษาโรคซึมเศร้า จะมีหลายกลุ่ม ทั้งนี้การใช้ยาจะต้องได้รับการแนะนำจากแพทย์เฉพาะทาง ไม่ควรซื้อจากร้านขายยาหรือจากคำแนะนำของผู้อื่น เพราะตัวยานั้น อาจจะไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ และอาจจะทำให้ได้รับอันตรายจากการใช้ยาได้
โรคซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตใจ เป็นบาดแผลที่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ที่เป็น และเป็นโรคที่มีโอกาสเกิดกับผู้สูงอายุสูง ฉะนั้นครอบครัวใด ที่มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน ก็อย่าลืมสังเกตอาการของผู้สูงอายุในบ้าน ว่ามีพฤติกรรมที่ผิดปกติหรือไม่ เพื่อจะได้หาแนวทางป้องกันโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุได้ต่อไปอย่างทันท่วงที