สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง* เข้ารับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ ในระหว่างรอรับสิทธิฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 เนื่องจากสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ รวมถึงลดระยะเวลาการรักษาตัวในโรงพยาบาล หากได้รับเชื้อโควิด-19
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประสานกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข เปิดให้ประชาชนที่ถูกจัดอยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยง* จองสิทธิรับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลจำนวน 6.4 ล้านโดส ภายใต้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 และได้เปิดให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนที่หน่วยบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด
ทำไมเราถึงควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่?
เนื่องด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน ซึ่งอัตราการเสียชีวิตจากอาการนี้ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรังนั้นค่อนข้างสูง จึงเป็นสาเหตุให้การรับวัคซีนป้องกันเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดความเสี่ยงดังกล่าว การรับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ยังช่วยลดความสับสนในการตรวจวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่กับโรคโควิด-19 แถมยังช่วยลดความรุนแรงของอาการเจ็บป่วยหากได้รับเชื้อโควิด-19 อีกด้วย
ควรรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีนโควิด-19 ก่อน?
ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก่อน และเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนรับวัคซีนโควิด-19 ในกรณีที่รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วหนึ่งเข็ม มาตรการ** จะขึ้นกับชนิดของวัคซีนที่ได้รับ
- Sinovac: ต้องรับวัคซีนเข็มที่สองก่อน จากนั้นต้องเว้นระยะห่าง 1 เดือน ก่อนเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ้
- AstraZeneca: สามารถรับวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ได้ โดยห่างจากวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกอย่างน้อย 1 เดือน และสามารถรับวัคซีนโควิด-19 เข็มที่สองได้หลังจากรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 1 เดือน
สำหรับผู้ที่ต้องการรับวัคซีน AstraZeneca ให้ครบสองเข็มก่อนซึ่งต้องฉีดห่างกันประมาณ 10 – 12 สัปดาห์ สามารถรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้หลังจากรับวัคซีนเข็มที่สองแล้วอย่างน้อย 1 เดือน
*ประชาชนใน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
- หญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์เกินกว่า 4 เดือน
- เด็กที่มีอายุ 6 เดือนจนถึง 2 ปี
- ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน)
- ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้พิการทางสมองหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
- ผู้ป่วยโรคธารัสซีเมีย และผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV)
- โรคอ้วน (มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป/ ดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
**อ้างอิงจาก สปสช. วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564