5 วิธีดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19

ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วง เราจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองไม่ให้ได้รับเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย หรือเว้นระยะห่างทางสังคม และไม่อยู่ในสถานที่ปิดหรือบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ เป็นวิธีเบื้องต้นในการดูแลสุขภาพกายของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่า “สุขภาพจิต” ของเรา ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

หลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องออกจากงาน หรือจำเป็นที่จะต้องทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) นักเรียนหรือนักศึกษาในพื้นที่เสี่ยง ต้องเรียนออนไลน์ หรือต้องออกจากระบบการศึกษาเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ก็ล้วนแล้วแต่สามารถเป็นปัจจัยให้เกิดความเครียด และสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต หรือโรคซึมเศร้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตไม่แพ้โรคระบาดเลย

ด้วยความห่วงใยสุขภาพจิตของคนในชุมชน วันนี้ คลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ อยากจะมาแบ่งปัน 5 วิธีการดูแลสุขภาพกายควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพใจ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!

1. เริ่มต้นรักษาสุขภาพใจ ด้วยการรักษาสุขภาพกาย

การดูแลสุขภาพจิต อาจเริ่มต้นจากการทำร่างกายให้แข็งแรง ไม่ว่าจะโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การไม่มีโรคประจำตัว หรืออาการป่วยที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีสุขภาพจิตที่ดี 

2. ลดหรืองดการเสพสื่อที่อาจสร้างความกังวลและบั่นทอนจิตใจ

การรับรู้ข่าวสาร และอัปเดตเรื่องราวในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเราใช้เวลากับสื่อต่าง ๆ มากเกินไป และรับแต่เนื้อหาเชิงลบ หรือเนื้อหาที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ก็อาจส่งผลให้เรารู้สึกเครียดมากขึ้น ดังนั้น หากรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีอาการเครียด การลดเวลาการใช้โซเชียลมีเดีย หรือรับสื่อต่าง ๆ อาจช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นไม่มากก็น้อย

3. พูดคุยถึงปัญหาและเรื่องราวต่าง ๆ กับคนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือคนรัก

หากเรามีปัญหา หรือความเครียดสะสมในใจ การได้ระบายออกมา อาจสามารถช่วยคลายความกังวลหรือความเครียดลงได้บ้าง และเราอาจได้รับข้อคิด หรือความคิดดี ๆ จากคนรอบตัวอีกด้วย

4. ลด หรือไม่พึ่งการใช้บุหรี่ สุราหรือสารเสพติด เพื่อจัดการความเครียด

บุหรี่ สุรา และสารเสพติดชนิดอื่น ๆ อาจช่วยลดความเครียดได้จริงสำหรับใครหลายคน แต่อย่างไรก็ตาม ความเครียดดังกล่าว จะหายไปแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่สิ่งที่อยู่กับเราต่อ คือผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว ดังนั้น เราไม่ควรพึ่งพาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรลดปริมาณหรือความถี่ลง แล้วหันมาดูแลร่างกายและจิตใจตัวเองด้วยวิธีอื่น ที่ไม่กระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

ปีนี้คุณตรวจสุขภาพแล้วหรือยัง? ถ้าหากว่ายังและมีความสนใจ สามารถดูโปรแกรมตรวจสุขภาพของ คลินิกฯ ใกล้บ้านใกล้ใจได้ ที่นี่

5. หากคุณเริ่มรู้สึกเครียดหรือกังวลจนหาทางออกไม่ได้จริง ๆ ควรปรึกษานักจิตวิทยา หรือเข้าพบจิตแพทย์

หากสถานการณ์เริ่มแย่ลง และไม่มีวี่แววว่าคุณจะจัดการกับความเครียดหรือความกังวลที่อยู่ในใจได้ด้วยตัวเอง และไม่มีคนในครอบครัว หรือคนรอบตัวช่วยได้ แนะนำให้เข้าปรึกษานักจิตวิทยา หรือเข้าพบจิตแพทย์ เพื่อรับการดูแลสุขภาพจิตใจอย่างถูกต้องและเหมาะสม

อ้างอิง: กรมสุขภาพจิต

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @kbkjclinic

กดแชร์บทความ

ดูบทความอื่นๆ