เป็นที่รู้กันว่า ฤดูฝนในประเทศเขตร้อนชื้นอย่างประเทศไทยมักมาพร้อมกับโรคระบาดขาประจำอย่าง ไข้เลือดออก และ ไข้หวัดใหญ่ ทำให้ทุกครั้งที่เรามีอาการป่วย ไข้ขึ้นสูงเป็นเวลาหลาย ๆ วัน เรามักจะเกิดความกังวลและสับสนว่า เรากำลังป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดาที่มีอาการหนัก หรือรุนแรงกว่านั้น ซึ่งถ้ารุนแรงกว่านั้น ความเป็นไปได้ที่เราพอจะคาดเดาได้ ก็คือเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่ก็เป็นไข้เลือดออก นั่นเอง
เพื่อให้การสำรวจอาการด้วยตนเองมีความแม่นยำมากกว่าเดิม วันนี้คลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจจะมาแบ่งปันความรู้กับคนในชุมชน ว่าไข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่ มีอาการชัดเจนที่สังเกตได้เป็นอย่างไร และเหมือนหรือแตกต่างจากอีกโรคหนึ่งอย่างไร
อาการทั่วไปของโรคไข้เลือดออก
ไข้เลือดออกเกิดจากการถูกยุงที่มีเชื้อไวรัส “เดงกี” กัด และเมื่อผ่านเวลาไปประมาณ 8 – 12 วัน เชื้อไวรัสจะฟักตัวและแพร่เข้าสู่กระแสเลือดของผู้ที่ถูกยุงกัด ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกในที่สุด แน่นอนว่า อาการที่สังเกตได้ของโรคไข้เลือดออกในผู้ป่วยแต่ละรายมักแตกต่างกัน และสามารถสังเกตได้ ดังนี้:
- มีไข้สูงเฉียบพลันเป็นเวลา 2 – 7 วัน
- มีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- มีอาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร หรือมีอาการปวดท้องร่วมด้วย
- มีอาการซึมจากการเจ็บป่วย และมีเลือกกําเดา
- ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจเกิดภาวะไข้เลือดออกช็อก ซึ่งมีอาการ ปลายมือปลายเท้าเย็น ความดันโลหิตต่ำ ไข้ลดอย่างรวดเร็ว เป็นต้น
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุการติดเชื้อ อาการ และวิธีการรักษาโรคไข้เลือดออกได้ ที่นี่
อาการทั่วไปของโรคไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยมากสามารถติดต่อจากคนสู่คนผ่านการไอ จาม หรือการมีสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัส โดยอาการโดยทั่วไปอาจคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป และอาการเด่น ๆ ที่เราสามารถสังเกตได้ของโรคไข้หวัดใหญ่ มีดังนี้:
- มีไข้สูงเป็นเวลา 2 – 4 วัน
- มีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- มีอาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร
- มีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกไหล และเจ็บคอ
- มีอาการแน่นหน้าอก หรือไอ
- อาจมีภาวะปอดอักเสบแทรกซ้อน
อย่างไรก็ตาม นอกจากอาการโดยรวมของโรคไข้หวัดใหญ่จะคล้ายกับโรคไข้เลือดออกแล้ว ยังมีอาการที่เกี่ยวข้องกับปอดและระบบทางเดินหายใจ ที่ค่อนข้างคล้ายกับภาวะอาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย โดยความแตกต่างที่ชัดเจนก็คือ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ไอแห้ง จมูกไม่ได้กลิ่น และลิ้นไม่ได้รับรส ร่วมด้วย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ความแตกต่างที่ชัดเจนของไข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่คืออะไร?
เราสามารถสังเกตได้ว่าไข้เลือดออกจะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน อาจมีเลือดกำเดาไหล และเลือดออกเป็นจุด ๆ ตามร่างกาย ในขณะที่โรคไข้หวัดใหญ่จะมีอาการไข้สูงติดต่อกัน และมีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ อย่างเช่น มีอาการไอ หรือมีอาการแน่นหน้าอกร่วมด้วย
เพียงเท่านี้ เราก็สามารถสังเกตอาการของโรคไข้เลือดออก และไข้หวัดใหญ่ ได้แม่นยำมากขึ้นอีกนิด โรคทั้งสองสามารถรักษาตามอาการและหายได้เอง แต่อย่างไรก็ตาม หากอาการเริ่มรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม อย่างทันท่วงที
อ่านเพิ่มเติม:
- ไข้เลือดออก โรคร้ายฤดูฝนที่มาพร้อมกับยุงลาย ป้องกันได้
- ไข้หวัดใหญ่คืออะไร ทำไมเราต้องฉีดวัคซีนป้องกัน?
- โควิด-19 VS ไข้หวัดใหญ่ อาการเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @kbkjclinic