November 2021

ลูกโป่งแก๊สหัวเราะ ‘ความเพลิดเพลิน’ ที่อาจ ‘อันตรายถึงชีวิต’

การสูดดมลูกโป่งแก๊สหัวเราะ อาจฟังดูเป็นแค่สิ่งที่ทำเพื่อสร้างความเคลิบเคลิ้มเพลิดเพลิน ในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเป็นอันตรายอะไรต่อสุขภาพขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตาม หากเราสูดดมแก๊สดังกล่าวบ่อยและติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจเป็นเหตุให้ร่างกายขาดออกซิเจน และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ ปัจจุบัน ลูกโป่งแก๊สหัวเราะกลับมาระบาดอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังมีความอยากรู้อยากลองโดยไม่ทันคิดถึงผลลัพธ์ที่อาจตามมา เพื่อเป็นการสร้างตระหนักถึงผลกระทบต่อร่างกาย และอันตรายที่อาจเกิดขึ้น วันนี้ทางคลินิกฯ ของเรา จะมาแบ่งปันความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับลูกโป่งแก๊สหัวเราะ ให้คนในชุมชนได้ทราบกัน แก๊สหัวเราะในลูกโป่งคืออะไร? แก๊สที่อยู่ในลูกโป่ง หรือที่เราเรียกกันว่า ‘แก๊สหัวเราะ’ คือแก๊สไนตรัสออกไซด์ (Nitrous oxide) ซึ่งเป็นแก๊สที่ในทางการแพทย์ใช้เป็นแก๊สดมสลบก่อนทำการผ่าตัด หรือถอนฝัน ซึ่งออกฤทธิ์และหมดฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยตามกฏหมาย แก๊สดังกล่าวถือเป็นยาที่ใช้ในโรงพยาบาล แหล่งที่มา: CGTN เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เผยว่า แก๊สไนตรัสออกไซด์ หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก แก๊สจะเข้าไปแทนที่ออกซิเจนในปอดและระบบประสาทส่วนกลาง เป็นผลให้เกิดอาการมึนงง คลื่นไส้ อาเจียน อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระบบหายใจหรือประสานการทำงานของอวัยวะภายในต่าง ๆ ได้ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดการหกล้มได้รับบาดเจ็บ หรือหมดสติ หากสูดดมแก๊สดังกล่าวบ่อยครั้งเป็นเวลานานเข้า จะทำให้เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย มีอาการเหน็บชาที่นิ้วมือนิ้วเท้า …

ลูกโป่งแก๊สหัวเราะ ‘ความเพลิดเพลิน’ ที่อาจ ‘อันตรายถึงชีวิต’ Read More »

5 วิธีดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19

ในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วง เราจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองไม่ให้ได้รับเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย หรือเว้นระยะห่างทางสังคม และไม่อยู่ในสถานที่ปิดหรือบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่น สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ เป็นวิธีเบื้องต้นในการดูแลสุขภาพกายของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่า “สุขภาพจิต” ของเรา ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน หลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องออกจากงาน หรือจำเป็นที่จะต้องทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) นักเรียนหรือนักศึกษาในพื้นที่เสี่ยง ต้องเรียนออนไลน์ หรือต้องออกจากระบบการศึกษาเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ไม่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ก็ล้วนแล้วแต่สามารถเป็นปัจจัยให้เกิดความเครียด และสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต หรือโรคซึมเศร้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตไม่แพ้โรคระบาดเลย ด้วยความห่วงใยสุขภาพจิตของคนในชุมชน วันนี้ คลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ อยากจะมาแบ่งปัน 5 วิธีการดูแลสุขภาพกายควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพใจ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย! 1. เริ่มต้นรักษาสุขภาพใจ ด้วยการรักษาสุขภาพกาย การดูแลสุขภาพจิต อาจเริ่มต้นจากการทำร่างกายให้แข็งแรง ไม่ว่าจะโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การไม่มีโรคประจำตัว หรืออาการป่วยที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีสุขภาพจิตที่ดี  2. ลดหรืองดการเสพสื่อที่อาจสร้างความกังวลและบั่นทอนจิตใจ การรับรู้ข่าวสาร และอัปเดตเรื่องราวในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเราใช้เวลากับสื่อต่าง …

5 วิธีดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 Read More »

ผิวสวยสุขภาพดี ดูแลจากภายใน “ไม่” พึ่งสารปรอท

มาตรฐานความงาม (Beauty Standard) ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง หรือกลุ่ม LGBTQ+ ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงผู้ที่มี “ผิวขาว” อีกต่อไป เพื่อเป็นการร่วมสร้างมาตรฐานความงามในสังคมแบบใหม่และยอมรับในความสวยงามที่หลากหลาย เราควรหันมาใส่ใจ “สุขภาพผิว” มากกว่า “สีผิว” โดยเริ่มจากการดูแลสุขภาพผิวของตัวเองจากภายในสู่ภายนอก ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้: เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อร่างกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดความเครียด บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงแดดจัด เพราะอันตรายต่อผิว ไม่พึ่งสารปรอท เพื่อเพิ่ม “ความขาว” ให้ผิว หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่า การใช้สารปรอทเป็นอีกหนึ่งทางเลือกบำรุงผิวที่ทำให้ผิวขาวในเวลาอันสั้น และ”ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น” ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด สารปรอท เป็นสารที่ถูกห้ามใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องสำอางค์ อันเนื่องมาจากความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง แม้ว่าจะทำให้ผิวขาวเร็ว แต่หลังจากนั้น จะเกิดผื่นแดงบริเวณที่ทา ผิวเริ่มบางลง ติดเชื้อง่าย และหากใช้เครื่องสำอางค์ที่มีสารปรอทไปนาน ๆ เข้า จะเกิดพิษสะสมของปรอท ซึ่งมีผลทำให้เกิดปัญหาไตอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และส่งผลต่อทารกในสตรีมีครรภ์ และเมื่อหยุดใช้เครื่องสำอางค์ที่มีสารปรอท จะส่งผลให้ผิวบริเวณที่ทาเกิดรอยดำถาวรอีกด้วย …

ผิวสวยสุขภาพดี ดูแลจากภายใน “ไม่” พึ่งสารปรอท Read More »